เมนู

เถรวรรคที่ 4


1. วาหุนสูตร


ว่าด้วยพระตถาคตสลัดออกจากธรรม 10 ประการ
ชื่อว่ามีพระทัยปราศจากแดนกิเลส


[81] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่ฝั่งสระโปกขรณี
ชื่อคัคครา ใกล้จัมปานคร ครั้งนั้นแล ท่านพระวาหุนะ เข้าไปเฝ้าพระผู้-
มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้น
แล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระตถาคต
สลัดออก ปราศจาก หลุดพ้นจากธรรมเท่าไรหนอ จึงชื่อว่ามีพระทัย
ปราศจากแดนกิเลสอยู่ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบว่า ดูก่อนวาหุนะ
พระตถาคตสลัดออก ปราศจาก หลุดพ้นจากธรรม 10 ประการแล จึง
ชื่อว่ามีพระทัยปราศจากแดนกิเลสอยู่ 10 ประการเป็นไฉน คือ พระ-
ตถาคตสลัดออก ปราศจาก หลุดพ้นจากรูป 1 จากเวทนา 1 จากสัญญา
1 จากสังขาร 1 จากวิญญาณ 1 จากชาติ 1 จากชรา 1 จากมรณะ 1
จากทุกข์ 1 จากกิเลส 1 จึงชื่อว่ามีพระทัยปราศจากแดนกิเลสอยู่ ดูก่อน
วาหุนะ พระตถาคตสลัดออก ปราศจาก หลุดพ้นจากธรรม 10 ประการ
นี้แล จึงชื่อว่ามีพระทัยปราศจากแดงกิเลสอยู่ เปรียบเหมือนดอกอุบล
ดอกปทุม หรือดอกปุณฑริก ที่เกิดในน้ำ เจริญในน้ำ ขึ้นพ้นแล้วจาก
น้ำ ไม่เปรอะเปื้อนด้วยน้ำตั้งอยู่ฉะนั้น.
จบวาหุนสูตรที่ 1

เถรวรรคที่ 4


อรรถกถาวาหุนสูตรที่ 1


วรรคที่ 4

วาหุนสูตรที่ 1 พึงทราบวินิจฉัยดังต่อไปนี้.
บทว่า วิมริยาทิกเตน ได้แก่ ทำลายของเขตแห่งกิเลส แล้วทำ
ไม่ให้มีขอบเขต.
จบอรรถกถาวาหุนสูตรที่ 1

2. อานันทสูตร


ว่าด้วยภิกษุประกอบด้วยธรรม 10 ประการ
จักเจริญงอกงามในธรรมวินัยนี้


[82] ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า
ถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วพระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ดูก่อนอานนท์ ภิกษุเป็นผู้
ไม่มีศรัทธา จักถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัยนี้ ข้อนี้ไม่เป็น
ฐานะที่จะมีได้ ภิกษุเป็นผู้ทุศีล... ภิกษุเป็นผู้มีการสดับน้อย ... ภิกษุ
เป็นผู้ว่ายาก...ภิกษุเป็นผู้มีมิตรชั่ว...ภิกษุเป็นผู้เกียจคร้าน...ภิกษุเป็น
ผู้มีสติเลอะเลือน...ภิกษุเป็นผู้ไม่สันโดษ. . . ภิกษุเป็นผู้มีความปรารถนา
ลามก ...ภิกษุเป็นผู้มีความเห็นผิด จักถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ใน
ธรรมวินัยนี้ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้ ดูก่อนอานนท์ ภิกษุประกอบ
ด้วยธรรม 10 ประการนี้แล จักถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์ในธรรมวินัย
นี้ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้.